Singapore Day 3-4 - Bugis Junction, Sultan Mosque on Arab Street, Little India, Sentosa Island, and Last day

จันทร์ 24 มกราคม 2554......วันนี้เป็นวันที่ 3 ที่อยู่ในสิงคโปร์ก่อนที่จะเดินทางกลับ 1 วัน เวลาผ่านไปเกือบ 6 เดือนกว่าแล้วถึงได้มีเวลาเขียน blog สิงคโปร์ให้เสร็จ วันที่ 3 นี้อากาศในสิงคโปร์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คือช่วงเช้าอากาศแจ่มใสดี แต่พอตกบ่ายๆ ฝนเริ่มตก ไม่มีแสงแดดเลย แต่ก็ไม่ทำให้การเดินเที่ยวหมดสนุกแต่อย่างไรถึงแม้ว่าบางช่วงจะต้องหาที่หลบฝนก็ตามเนื่องจากฝนเริ่มตกหนักมากขึ้นแต่ก็เป็นแค่ช่วงระยะสั้นๆ เท่านั้น

ตื่นเช้ามาก็ถ่ายภาพวิวจากระเบียงที่โรงแรมอีกเหมือนเช่นตามเคย 

ป้ายสติกเกอร์ติดตรงประตูระเบียงห้องให้ระวังอย่าทำของหล่นจากระเบียง เพราะถ้าของหล่นตกลงไปอาจหล่นลงถูกคนที่อยู่ข้างล่างถึงกับขึ้นเสียชีวิตได้นะเพราะอยู่ชั้นที่ 48 ซึ่งสูงมาก และอีกอย่างก็อย่ายื่นหน้ายื่นตัวมองลงไปจากระเบียงมากนักเพราะอาจพลัดหล่นตกลงไปได้ บางครั้งลมก็แรงมากเลย

มีหนังสิอพิมพ์ฟรีให้อ่านในห้อง เป็นข่าวของวันนี้เห็นว่าแปลกและตลกดีจึงถ่ายภาพเก็บไว้ขำๆ แต่คนในข่าวคงไม่ขำเท่าไหร่แต่คงได้บทเรียนไปอีกนาน อยากทานคุ๊กกี้แบบนี้กันหรือเปล่า

โปรแกรมแรกของวันนี้คือเดินไปเที่ยวชมย่าน Bugis เข้าไปที่ Bugis Junction กันก่อนเลย ไปใกล้เวลาเปิดไปหน่อย ร้านยังไม่เปิดกันหลายร้านเลย ที่นี่ดีมากค่ะ มีร้านให้เดินชมหลายร้านและมีห้างอยู่ติดกัน และมี Food Court อาหารอร่อย ราคาดีให้ท่านอร่อยและอิ่มท้อง

มองหา Arab Street อยู่นานกว่าจะหาเจอก็เดินกลับไปกลับมา 2 รอบได้ ที่จริงเดินไปถูกทางแล้ว แต่ไม่นึกว่าจะต้องเดินต่อไปอีกเพราะดูจากแผนที่คร่าวๆ ไม่น่าจะอยู่ไกลไปมากกว่านี้ ก็เลยย้อนกลับมาที่ Bugis Junction อีก แต่ก็หาแผนที่ไม่เจอ เลยเดินต่อไปอีกเพราะรู้ว่ามีโรงแรม InterContinental Singapore อยู่ใกล้ๆ คงมีแผนที่ให้ดู โรงแรมนี้สวยหรูดี ใช้ได้เลยค่ะ 

จากนั้นก็เดินย้อนกลับไปอีก เจอแล้ว Arab Street อยู่เลย Bugis Junction ไปหน่อยนึง ไม่ไกลมากนัก ภาพนี้เห็นด้านหลังของมัสยิด Sultan Mosque แล้ว เดินต่อไปเรื่อยๆ เพื่อไปถ่ายรูปด้านหน้า

Arab Street

และแล้วก็ถึงด้านหน้าของมัสยิด

นักท่องเที่ยวยังมากันไม่เยอะมากนัก มีร้านขายของที่ระลึกราคาต่างกันไป เดินไปไกลหน่อยราคาก็จะยิ่งถูกลง

ภาพนี้ใช่เลยเหมือนกับภาพที่เห็นในหนังสือ ทำให้อยากมาชมที่แห่งนี้

อาคารต่างๆ สวยดี

เสร็จแล้วก็ประมาณเที่ยงพอดี เลยเดินย้อนกลับไปที่ Bugis Junction เพื่อไปทานอาหารกลางวันที่ food court ที่นั่น มี 2-3 ชั้น ก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปเรื่อยๆ ชั้นบนสุดเพื่อไปหาอาหารที่ดูน่าทาน ไม่รู้จะเลือกทานที่ร้านไหนดี เดินไปเดินมาหลายรอบก็มาลงเอยที่ร้านนี้เพราะเห็นมีอาหารให้เลือกจากถาดหลายอย่าง แต่ดูแล้วงงๆ เลยเลือกอาหารแบบที่เป็นเซท เลือกเซทนี้มาได้ข้าวเปล่าราดด้วยผัก หมูพะโล้ ไก่ทอดเกล็ดขนมปัง + ไข่ดาว 1 ฟอง ราดด้วยน้ำราดแกงกะหรี่ เห็นหน้าตาอย่างนี้แต่อร่อยสุดๆ เลยค่ะ ราคาก็ไม่แพงด้วย

ของแฟนเป็นข้าวกับแกงกะหรี่ไก่อร่อยดี แต่ของเราดูเยอะและน่าทานกว่า 

ทานอิ่มแล้วก็เดินกลับไปที่โรงแรมเพื่อพักผ่อนก่อนออกไปเที่ยวต่อ ก่อนกลับห้องก็แวะเข้าห้าง Raffles City ที่อยู่ติดกับโรงแรมเพื่อไปหาขนมร้านอร่อยทาน กลับไปซื้อโดนัทและเครื่องดื่มที่ J.CO Donuts อีกเพราะไปทานเมื่อวันก่อนอร่อยมาก เลยติดใจอยากกลับไปลองโดนัทหลายๆ หน้าหน่อย ซื้อมา 6 ชิ้น บางหน้าก็อร่อยมากเพราะเป็นรสโปรด แต่บางหน้าก็ใช้ได้ ทานกันจนอิ่มและเอียนไปเลยเพราะเราเพิ่งทานข้าวกันมาอิ่มท้องไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะซื้อเครื่องดื่มที่ชื่อ Mochabella เพราะติดใจจากที่ซื้อมาทานเมื่อวันก่อนอีกเหมือนกัน  

ถ่ายวิวจากระเบียงห้องพักที่โรงแรมอีกซัก 3 ภาพ วิวสวยดีและอากาศยังดีอยู่

อิ่มแล้วและพักหายเหนื่อยแล้ว ก็นั่งรถไฟใต้ดิน MRT ไปลงที่ Little India Station เพื่อไปเดินชมเสียหน่อย แค่อยากไปถ่ายรูปเฉยๆ เพราะเห็นมีลงแนะนำในหนังสือ ก่อนไปถึงมีเรื่องตื่นเต้นนิดหน่อย แต่ไม่มีอะไรมาก พอไปถึงรถไฟก็มาพอดี มีคนเดินเข้าออกเยอะมาก ซักพักไฟก็กระพริบแดงๆ แฟนเลยรีบเดินเข้าไป แต่เราเดินตามเข้าไปไม่ทันเพราะประตูปิดพอดี เลยส่งสัญญาณให้แฟนว่า ไปเจอกันที่สถานีถัดไปที่เราจะต้องไปลงเพื่อเปลี่ยนสาย คือเรารู้กันว่ายังไงก็ต้องไปลงที่สถานีนั้นอยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาอะไร

 เราก็เลยต้องรอรถไฟอยู่คนเดียวอีกประมาณ 8 นาทีได้ จริงๆ แล้วมารู้ตอนหลังว่า พอไฟแดงกระพริบๆ นั่นคือสัญญาณว่า ประตูกำลังจะปิด และปิดเร็วมาก ไม่ควรรีบเดินเข้าไปนะคะเพราะตอนแฟนเดินเข้าไปก็โดนประตูหน่อยๆ เพราะกำลังปิดอย่างรวดเร็ว

และแล้วก็มาถึงแล้วที่ Little India นักท่องเที่ยวหายกันไปไหนหมด หรือเรามาเดินในจุดที่ไม่ใช่จุดท่องเที่ยวหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็เดินออกมาจากสถานีใต้ดินตรงนี้ก็ไม่น่าจะผิดที่นะ

เดินดูแล้วไม่มีอะไรมาก รู้ว่ามีร้านอาหารอร่อยๆ แต่เราแค่อยากมาเดินชมให้เห็นกับตาว่าเป็นอย่างไร เลยเดินแค่นิดหน่อย อีกอย่างพอออกจากสถานีมา ก็มีหนุ่มอินเดียมาเซย์ hello กับแฟนเลย แต่แฟนทำเฉยเพราะคิดว่าคงมาเสนอขายอะไรแน่ๆ เพราะไม่ใช่การทักทายแบบอย่างเป็นมิตร

พอเดินออกมาหน่อย แฟนก็บอกมีหนุ่มอินเดียบางคนจ้องมาที่เราใหญ่ แปลกใจว่ามองทำไม ไม่ใช่การมองแบบมองสาวนะคะ คิดว่าไม่ใช่อย่างนั้น แต่แบบเหม่อมองมาแบบแปลกๆ เคยอ่านเจอก็รู้ว่า สาวไทยก็โดนมองแถบนี้บ่อยเหมือนกัน จากเท่าที่เจอมา คิดว่าหนุ่มอินเดียหรือจากแถบนั้นค่อนข้างชอบสาวไทยนะ

เดินดูแล้วไม่มีอะไรมาก ก็เลยเดินย้อนกลับอีกทางผ่านทางนี้เห็นตึกสวยแปลกตาดี ไม่คิดว่าจะเห็นใน Little India เพราะดูแล้วเหมือนสไตล์ที่ Morocco มากกว่า ระหว่างทางเดินผ่านร้านตามถนนตามริมทางเดินฟุตบาทแคบๆ เห็นร้านและวิถีชีวิตผู้คนก็น่าสนใจดี หลายร้านขายดอกไม้และธูปหอม กลิ่นหอมอบอวลไปตลอดทาง

ตึกนี้เป็นโรงแรมค่ะ แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว เสร็จแล้วก็เดินลงไปขึ้นรถไฟ MRT เพื่อไปเที่ยวต่อ แฟนบอกครั้งหน้าถ้าได้กลับมาอีก จะไม่มาที่ Little India นี่อีกแล้วนะ เราก็เห็นด้วยเพราะมาเห็นแค่ครั้งเดียวก็พอใจแล้วค่ะ แค่มาเพื่อให้เห็นว่าที่นี่เป็นอย่างไรเท่านั้น ที่ Chinatown น่าสนใจกว่านะ

นั่งรถไฟ MRT มาลงที่ป้ายสถานีสุดท้ายของรถไฟสายสีม่วงที่ Habour Front Station เดินต่อไปยังห้าง VivoCity ค่ะ ห้างใหญ่ดี ร้านอาหารและร้านต่างๆ มีเยอะมาก เราเดินดูกันอยู่ซักพักก็เดินขึ้นไป ชั้น 3 เพื่อไปซื้อตั๋วนั่งรถไฟ Sentosa Express ข้ามไปยังเกาะ Sentosa  เสียเงินคนละ $3 เราไปซื้อกันที่

เคาเตอร์เพราะจะซื้อบัตรเข้าชม Songs of the Sea ด้วยค่ะ

ใครไม่อยากเสียเวลาต่อแถวมากนักก็ไปซื้อตั๋วที่เครื่องขายตั๋วอัติโนมัติได้ค่ะ มีอยู่ใกล้ๆ หรือใช้บัตร EZ-Link ก็ได้ค่ะ แต่เราไม่ได้ใช้เพราะจะเก็บมูลค่าเงินคงเหลือในบัตรไว้ใช้นั่งรถไฟ MRT กลับเข้าสนามบินในวันรุ่งขึ้น ไม่อยากเติมเงินในบัตรอีกเพราะคงไม่ได้ใช้ไปอีกนาน

เกาะ Sentosa ถ่ายจากฝั่ง VivoCity

มีเรือใหญ่จอดเทียบท่าอยู่พอดี 

รถไฟ Sentosa Express นี่ล่ะที่จะนำเราส่งไปถึงเกาะSentosa ใครจะนั่งกระเช้าข้ามไปก็ได้ แต่ราคาแพงค่ะ

ถึงแล้วค่ะ เราไปลงกันที่ Imbiah Station เป็นที่แรกเพราะอยากไปถ่ายรูปกับ Merlion ตัวใหญ่นี้ก่อนเลย อากาศเริ่มแย่ลงกว่าเดิม มืดลงและมีฝนตกลงมาปรอยๆ

สวนดอกไม้เล็กๆ สวยดีค่ะ

อีกซักภาพ

เดินไปด้านหลังบ้างเพื่อไปถ่ายรูปที่ Merlion Walk

จากนั้นก็เดินลงต่อไปเรื่อยๆ จนถึง Beach Station เพื่อต่อแถวรอนั่งรถ Shuttle ไปยังหาด Siloso ถึงแล้วแต่ซักพักฝนก็ตกลงมาหนัก เลยต้องหาที่หลบฝน เจอคนไทยกลุ่มใหญ่มาเที่ยวเป็นคณะ เรานั่งอยู่ข้างคุณป้าคนหนึ่ง ก็เลยสวัสดีทักทายกันหน่อยเพราะนั่งหลบฝนอยู่ด้วยกัน

ฝนยังไม่หยุดตกแต่ไม่หนักมากแล้ว เลยเดินออกไปที่ชายหาดเสียหน่อย ช่วงที่ไปก็เย็นมากแล้ว แถมอากาศไม่ดีอีก ภาพเลยไม่สดใสเท่าไหร่ หาดก็สวยดี แต่วิวด้านหลังไม่สวยเท่าไหร่เพราะมีเรืออยู่เต็มไปหมด

ประมาณ 6 โมงเย็น ก็มาที่สถานที่ที่จะดูโชว์ Songs of the Sea ซื้อตั๋วรอบ 7.40 PM ไว้ ประตูยังไม่เปิดให้เข้า เลยถ่ายรูปด้านนอกเป็นที่ระลึกหนึ่งภาพ ด้านข้างมีร้าน Gift shop ให้เดินดูของที่ระลึกน่ารักๆ ค่ะ

ยังเข้าไปหาที่นั่งสำหรับดูโชว์ไม่ได้ ก็เลยกลับไปที่สถานีเพื่อนั่งรถไฟไปลงที่สถานี Waterfront ค่ะเพื่อไปถ่ายรูปด้านหน้าที่ Universal Studios เสียหน่อย ไม่ได้วางแผนว่าจะเข้าไปเล่นอะไรเพราะเคยไปที่ Hollywood มาแล้วค่ะ ค่าเข้าแพง อีกอย่างแฟนไม่ชอบเล่นเครื่องเล่นต่างๆ มากนัก

 

ซูมภาพถ่ายด้านใน Universal Studios จากด้านนอกเสียหน่อย

มีร้านต่างๆ ให้เดินชมตกแต่งสวยงามดีค่ะ ในนี้มีโรงแรมตั้งอยู่หลายโรงแรมเลยล่ะค่ะ

Lake of  Dreams หน้า Resort World Sentosa ตอนนี้ยังไม่มีโชว์แสงสีให้ดู ใครอยากดูก็รอชมตอน 9:30 PM ได้

นั่งรถไฟ Sentosa Express กลับมาที่ Beach Station เพื่อมาดูโชว์ Songs of the Sea รอบ 7:40 PM เราเข้าไปหาที่นั่งกันก่อนล่วงหน้าประมาณ 1 ชั่วโมง คนก็มานั่งกันพอสมควรแล้ว แต่ยังหาที่นั่งดีๆ ได้อีกเยอะ แต่ซักพักใครมาช้าก็ต้องไปนั่งริมๆ เพราะคนมานั่งจับจองที่นั่งกันล่วงหน้าเต็มไปหมด สรุปถ้าใครจะไปให้เข้าไปหาที่นั่งก่อนล่วงหน้านานๆ เลยนะคะ แต่ถ้าไปเร็วมากก็เข้าไม่ได้นะคะเพราะเค้ายังไม่เปิดค่ะ

โชว์แสงสีตื่นเต้นสนุกใช้ได้ค่ะ เป็นเรื่องราวให้ติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ น่าสนใจดี แต่สำหรับตัวเอง คิดว่าดูแค่ครั้งเดียวก็พอเพราะเห็นที่ลาสเวกัสดูตื่นตาตื่นใจกว่าค่ะ ใครยังไม่เคยดูโชว์นี้ แนะนำให้ไปดูซักครั้งค่ะ เพราะโชว์นี้ฮิตมากค่ะที่นี่ มี 2 รอบนะคะ 7:40 PM & 8:40 PM ค่าเข้าชมทั่วไปคนละ $10 ค่ะ

 

โชว์จบแล้วค่ะ เสร็จแล้วก็นั่งรถไฟกลับมาที่ VivoCity มาหาอาหารเย็นทานกันที่ Food Republic ค่ะ ชอบการตกแต่งสไตล์จีนแบบเก่าๆ มาก มีป้ายห้ามถ่ายรูปแต่เห็นก็มีคนถ่ายอยู่ดี ร้านอาหารเยอะมาก คนก็เยอะมากด้วย อาหารที่สั่งมาอร่อยมากค่ะแต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้  สั่งจากร้านที่เคยได้ลงหนังสือพิมพ์น่ะค่ะ เห็นเค้าตัดแปะไว้ให้ชมหน้าร้าน ลืมชื่อร้านไปแล้ว แต่อาหารเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวขาวๆ มีกุ้งอยู่ในจาน ราดน้ำซอส อร่อยสุดๆ เลยค่ะ

วันนี้วันที่ 4 เป็นวันสุดท้ายแล้วที่จะต้องบินกลับ เลยถ่ายภาพจากระเบียงห้องพักที่โรงแรมมาอีก 1 ภาพ

อากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่วันนี้เลยไม่ได้ไปไหนกันไกลมากเพราะตื่นสายด้วยและต้องบินช่วงบ่ายๆ เลยไปหาที่นั่งทานอาหารกลางวันในร้านอาหารใน CityLink Mall ซึ่งอยู่ติดกับโรงแรมอีกเหมือนกัน สะดวกดีค่ะ เห็นภาพเมนูด้านหน้าน่าทาน และมีราคาพิเศษสำหรับเซทอาหารกลางวัน ก็เลยเข้าไปนั่งทานที่ร้าน New York New York ค่ะ

สั่งจานนี้เพราะดูน่าทานมาก มีเครื่องดื่มและไอศรีมให้อีก 1 ลูกปิดท้ายรวมอยู่ในเซท จานนี้เป็นอาหารจานไก่ อร่อยมากๆ เลยค่ะ

จบแล้ว ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ใครมีคำถามอะไรให้ถามเข้ามาได้เลยในนี้นะคะ จะตอบให้เฉพาะในนี้นะคะ และต้องขอโทษด้วยค่ะที่บางครั้งใช้เวลาตอบนานไปหน่อย เพราะบางช่วงไม่มีเวลาได้เข้ามาเช็คข้อความเลยค่ะ