วันที่สอง จันทร์ 21พ.ค. 2555.....ก่อนมาถึงซาน ฟรานซิสโกได้จองทัวร์ของบริษัทแห่งหนึ่งผ่านทางเวบไซด์ ตัดสินใจว่าทัวร์ชมเมืองของวันที่สองแล้วกันเพราะจะได้มีเวลากลับไปในที่ที่อยากจะไปอีก การเที่ยวกับทัวร์จะมีเวลาชมสถานที่แต่ละแห่งไม่มากนัก แต่ก็ถือว่าคุ้มเพราะสามารถเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญได้เกือบครบภายใน 1 วัน ที่เลือกบริษัททัวร์แห่งนี้เพราะเห็นว่าได้รับคะแนนรีวิวดีมาก และมีให้ออกไปเดินชมเมืองตามหลังไกด์ไปในสถานที่บางแห่ง ไม่ได้อยู่แต่ในรถอย่างเดียว ประทับใจไกด์มาก สุภาพและเป็นมืออาชีพ
แต่วันนั้นเป็นวันโชคร้ายของทีมของเราเพราะรถบัสเสีย เลยต้องเสียเวลาไป 1 ชั่วโมงเพื่อรอรถบัสคันใหม่ซึ่งใหญ่กว่าเดิม ทำให้ไม่สามารถเข้าไปจอดรถในบางที่ได้ และเนื่องจากเวลามีจำกัด เลยอดเข้าไปชม 2-3 ที่ เสียดายมาก แต่ก็โทษไกด์ไม่ได้เพราะเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ไกด์พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยไกด์ก็แจ้งคนขับรถคนใหม่ให้ช่วยขับผ่านสถานที่ที่ควรจะได้เข้าชม ได้เห็นแต่เพียงข้างนอกก็ยังดี วันหลังเราไปกันเองได้เพราะยังมีเวลาอีกหลายวัน
สำหรับทัวร์ของบริษัทนี้ ลูกทัวร์ต้องไปรอพบกันที่หน้าตึก Ferry Building อย่างเดียว (ตามภาพด้านบน) เพื่อที่จะได้ไม่เสียเวลาไปรับลูกทัวร์แต่ละคนที่โรงแรม ตึกนี้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เดินทางไปได้ง่ายอย่างสะดวกสบาย สำหรับการเดินทางไปตึกนี้จากโรงแรมที่พัก The Fairmont San Francisco ก็ไปรอขึ้นรถรางสาย California ข้างโรงแรม นั่งลงจนไปถึงสุดป้าย แล้วก็เดินต่ออีกนิดหน่อย ข้ามถนนแป๊บเดียวก็ถึงแล้วค่ะ
ถึงเวลาทัวร์แล้ว รถก็พาขับชมสถานที่ต่างๆ ตามทาง และไปจอดในที่แห่งหนึ่งเพื่อให้เราได้เดินตามหลังไกด์ไปยังต้นทางของ Lombard Street ก็เดินลงไปถามทางลาดชันจนถึงปลายสุดของถนนคดเคี้ยวแห่งนี้ ระหว่างเดินลงเจ้าของบ้านบางแห่งก็ออกมาทักทายกับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตร น่ารักมาก
เดินลงถนน Lombard ตามบันไดลาดชัน
ถึงปลายถนนแล้ว
ภาพวิวถ่ายจาก Lombard Street ซึ่งจะมองเห็น Coit Tower อยู่บนเนินสูง
จากปลายถนนคดเคี้ยว มองไปด้านข้างเห็นเกาะ Alcatraz ได้อย่างชัดเจนมาก
จากนั้นก็กลับไปขึ้นรถเพื่อไปต่อกันที่ Grace Cathedral ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมที่พักไปแค่เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้นเอง มีเวลาให้เข้าชมที่นี่ประมาณ 15-20 นาทีได้ ข้างในสวยใหญ่อลังการมาก มีภาพเขียนฝาผนังให้ดูรอบด้าน และหน้าต่างเป็นกระจกแก้วเป็นสีๆ สวยดีค่ะ ถ้าข้างในมีพิธี ก็คงจะไม่ได้เข้าไปดูนะคะ แต่วันนั้นไม่มีอะไรก็เลยเข้าไปดูและถ่ายรูปได้ตามใจชอบค่ะ
จากนั้นก็ไปต่อกันที่ Cable Car Barn Museum มีเวลาชมประมาณ 15 นาทีได้ เข้าไปแล้วก็จะเห็นว่ารถรางทั้ง 3 สายถูกควบคุมจากที่นี่ทั้งหมด
จากนั้นก็นั่งรถผ่าน City Hall ถ้าซื้อทัวร์ช่วงนี้เห็นมี Option ใหม่ๆ เพิ่มซึ่งจะจอดให้ลงที่แห่งนี้เพื่อถ่ายภาพด้วยค่ะ แต่ตอนไปเมื่อปีที่แล้วยังไม่มีให้เลือกแบบนี้
และหลังจากนั้นไม่กี่นาทีคนขับก็จอดรถแล้วบอกว่า รถมีอะไรบางอย่างเสีย ไม่สามารถจะขับรถขึ้นถนนลาดชันได้ ก็เลยต้องรอบริษัทเอารถคันใหม่มาเปลี่ยน เสียเวลาไปเกือบชั่วโมง ดีที่แถวนั้นมีร้านกาแฟ Starbucks อยู่ใกล้ๆ ก็เลยเข้าไปซื้อกาแฟและขนมเค้กมาทานในร้าน อร่อยมาก ทานเสร็จก็มารอแถวจุดที่จอดรถเพื่อรอรถคันใหม่ เป็นรถบัสขนาดใหญ่มาก ไม่ใช่รถบัสขนาดเล็กๆ ทำให้มีอุปสรรคไม่สามารถเข้าไปจอดชมสถานที่บางแห่งได้เพราะโดนห้ามนำรถใหญ่เข้าจอด
ไกด์ก็พยายามที่จะแก้สถานการณ์อย่างเต็มที่ บอกให้คนขับพาขับผ่านไปยังเส้นทางที่ควรจะได้จอดลงไปถ่ายภาพ ตอนแรกไม่แน่ใจเลยว่าจะได้เห็น Alamo Square Park ชื่อดังหรือไม่ ก่อนขึ้นรถได้ถามไกด์ไปว่า จะได้ไปดูที่นี่ตามกำหนดการหรือไม่ ไกด์เลยจัดให้ แต่แค่ขับรถผ่าน เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้ลงไปถ่ายรูปเพราะรถใหญ่จอดไม่ได้ และต้องตัดบางแห่งออกเพราะเวลาไม่พอ ยังต้องไปชมที่อื่นๆ อีก และบางคนมีทัวร์ต่อตอนบ่ายอีก เลยทำให้เวลามีจำกัดมากยิ่งขึ้น เสียดายเป็นอย่างมาก บริษัทน่าจะบำรุงรักษารถให้ดีกว่านี้ แต่ก็เป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ
เห็น Alamo Square Park จากรถแต่เพียงเท่านี้ ไม่มีเวลาจอดลงไปถ่ายภาพตามกำหนดการ เสียดายจริงๆ แต่ไม่เป็นไรเพราะวันหลังเรานั่งรถเมลล์ไปกันเอง ถ่ายภาพอย่างจุใจ และอากาศดีกว่าวันนี้มาก
แถวๆ Golden Gate Park ซึ่งมีอะไรให้ชมหลายอย่าง ก็เป็นอีกที่ที่ตามกำหนดการที่ควรจะได้ลงรถเข้าไปชมประมาณ 20-25 นาที แต่เนื่องจากรถเสียและเสียเวลารอรถคันใหม่ไปมาก เลยอดเข้าชม เสียดายจริงๆ และที่เสียดายสุดๆ ก็คือไม่ได้ลงไปถ่ายภาพที่ Palace of Fine Arts ตามกำหนดการ ได้แต่มองผ่านจากข้างนอกเท่านั้น ซึ่งมองไม่เห็นวิวสวยๆ ข้างในเลย แต่ไม่เป็นไรเพราะเราก็นั่งรถเมลล์ไปกันเองวันหลัง แต่ไม่มีเวลาไปที่ Golden Gate Park
นั่งรถผ่านแถวๆ Fort Mason แถวๆ นั้นมีบ้านใหญ่โตอลังการสวยดี
นั่งรถข้ามสะพาน Golden Gate เพื่อไปยังจุดชมวิวอีกด้าน หมอกลงสวยดี
ถีงแล้วจุดชมวิว มองไม่เห็นสะพานมากเท่าไหร่นักเพราะหมอกลงจัด มีโอกาสได้กลับไปจุดชมวิวฝั่งเมืองซาน ฟรานซิสโกอีกครั้ง ส่วนตัวคิดว่าจุดชมวิวจากฝั่งตัวเมืองสวยกว่า
จากนั้นก็นั่งรถทัวร์ไปต่อกันที่เมือง Sausalito มีเวลาให้เดินชมหรือหาอาหารกลางวันทานกันเอง 1 ชั่วโมง เวลามีไม่มากนัก แต่ใครอยากกลับไปที่นี่อีก ก็นั่งเรือข้ามฟากไปเองได้อย่างง่ายๆ
เข้าไปร้านเล็กๆ แห่งหนึ่งสั่ง Clam Chower in Sourdough Bread Bowl มาทาน ราคาไม่แพงเลยสำหรับร้านนี้ อร่อยใช้ได้
แฟนสั่งพิซซ่ามาทาน รอนานหน่อยเพราะทำกันสดๆ ก็อร่อยใช้ได้ แต่ไม่ถึงกับอร่อยมากนัก
เดินถ่ายรูปชมวิวที่ Sausalito กันต่อ
หมดเวลาแล้วก็กลับไปหาไกด์เพื่อรับบัตรโดยสารขึ้นเรือ Ferry ข้ามฟากกลับยังไปฝั่งซาน ฟรานซิสโก ภาพล่างนี้ถ่ายหลังจากเรือเพิ่งออก จะเห็นวิวเมือง Sausalito อยู่ด้านหลัง
ภาพสะพาน Golden Gate ถ่ายจากเรือ
ผ่านเกาะ Alcatraz ด้วย และเรือจะวิ่งผ่านเข้าไปใกล้ๆ ให้ได้เห็นกันอย่างชัดๆ ด้วยค่ะ
Bay Bridge กับตัวเมืองซาน ฟรานซิสโก
Bay Bridge จากมุมฝั่งตรงข้ามกับตัวเมืองซาน ฟรานซิสโก
อีกภาพ ใกล้ถึงฝั่งแล้วค่ะ จบการทัวร์แต่เพียงเท่านี้ ไกด์มายืนรออยู่ที่ฝั่งทางออกบนบก ได้ให้ทิปไกด์ไป ถึงจะเสียดายที่พลาดชมสถานที่ไป 2-3 แห่งเพราะรถเสีย แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของไกด์ และไกด์ดีมากก็ควรจะให้ทิปเพื่อเป็นกำลังใจ
นั่งรถรางสาย California ขี้นกลับไปยังโรงแรมที่พัก ระหว่างทางผู้หญิงสูงอายุคนหนึ่งยืนโหนอยู่ตรงหน้าเยื้องๆ มีคนเสนอให้เธอมานั่งแต่เธอปฏิเสธค่ะ รถรางต้องจอดตรงทางแยกเพื่อรอขึ้นไปยังเนินซึ่งลาดชันสูงมาก หลายคนบอกคนขับต้องเป็นมืออาชีพหมด แต่คราวนี้ไม่ค่ะ ระหว่างที่รถรางกำลังไต่เนินขึ้นไปนั้น รถเกิดชักกระตุกเนื่องจากการบังคับที่ผิดพลาดของคนขับเคลื่อนรถราง ทำให้เราทุกคนที่นั่งลื่นไหลลงไปกันตามๆ กันเพราะด้านนอกเป็นที่นั่งริมทางเดินตามยาว ส่วนผู้หญิงคนนั้นเธอตกรถรางค่ะในขณะทีรถรางก็ยังเคลื่อนตัวอยู่
เรานั่งเห็นเหตุการณ์ว่าเธอตกลงไปต่อหน้าเลย กลัวเป็นที่สุดเพราะนึกว่าเธอคงจะถูกรถยนต์ทับแน่ๆ และรถรางก็ยังไม่ยอมหยุด เลยกรีดร้องจนคนขับรู้ตัวเลยหยุดรถ โชคดีที่ไม่มีรถตามมา เธอคนนั้นน่าจะไม่เป็นอะไรมากนัก เหตุการณ์ครั้งนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ห้อยโหนข้างนอกเป็นดีที่สุด และอย่าโหนโดยจับราวแต่เพียงข้างเดียวเหมือนนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เกิดอะไรขึ้นมาแบบนี้อีกไม่คุ้มกันค่ะ ตั้งแต่นั้นถ้ามีที่นั่งเราจะเข้าไปนั่งค่ะ ถ้าไม่มีก็จะโหนโดยจับด้วยมือ 2 ข้างแน่นเลย เหนื่อยมากค่ะเวลาขึ้นเนินชัน เพราะกลัวตกเหมือนเธอคนนั้น ไม่รู้ว่าเธอคนนั้นจะฟ้องร้องหรือเปล่าเพราะความผิดของคนขับเต็มๆ เลย
ถึงโรงแรมแล้วก็พักผ่อนเสียหน่อย แล้วออกไปเดินหาอาหารเย็นต่อ จุดมุ่งหมายแรก ต้องเดินไปถ่ายรูปที่ Chinatown Gate ให้ได้ตามภาพข้างล่างนี้ค่ะ
และเดินต่อไปยัง Union Square ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก ทางเดินและถนนบางแห่งก็เป็นเนินชันมาก เวลาเดินขึ้นจะเหนื่อยหอบมาก แต่ก่อนมาเที่ยวเราไปฝึกเดินขึ้นเนินลงเนินสูงๆ กันหลายรอบเพื่อเตรียมร่างกายกันโดยเฉพาะค่ะ เลยไม่เหนื่อยมากนัก
หัวใจแบบนี้มีที่ Union Square ทั้ง 4 มุมเลย เดินผ่านมุมนี้ก็เลยถ่ายภาพมาค่ะ
หัวใจดวงเดียวกันแต่มีภาพวาดระบายสีทั้ง 2 ด้านแตกต่างกัน
Union Square ตอนเย็น มีห้างใหญ่และโรงแรมหลายแห่งตั้งอยู่รอบด้าน คนไร้ที่อยู่ขอทานก็เยอะค่ะ บางคนน่าสงสารจริงๆ บางคนก็แก่มาก ให้ไป 2 คนคนละหนึ่งดอลล์เพราะมีแบงค์ย่อยอยู่พอดี ให้ไปเค้าก็ขอบคุณกัน ก็สุภาพกันดี ทำบุญให้ๆ ไปค่ะ ไม่ต้องคิดมาก มีคนแก่คนหนึ่งบอกว่า วันนี้เป็นวันเกิดเค้า ก็เลยใส่ให้ไป 1 ดอลล์ ไม่มากนักแต่แค่นี้เค้าก็ดีใจแล้วค่ะ
ภาพถ่ายของ Union Square จากร้านอาหารในตึกห้าง Macy's ค่ะ ที่ร้านอาหาร Burger Bar
สั่งเบอร์เกอร์มาทาน อร่อยดีค่ะ
ขอจบการเดินทางในวันที่สองแต่เพียงเท่านี้ ใครมีคำถามอะไรก็ถามมาได้เลยค่ะ บางครั้งอาจจะตอบช้าหน่อยเพราะนานๆ เข้ามาทีค่ะเพราะไม่นึกว่ายังมีคนเข้ามาอ่านอยู่ แต่ทุกคำถามจะได้รับคำตอบแน่นอนค่ะ ให้กลับเข้ามาเช็คดูเรื่อยๆ นะคะ ขอบคุณค่ะ ครั้งหน้าเราจะออกไปนอกเมืองซาน ฟรานซิสโก ไปชมทะเลกันสวยๆ กับทัวร์ค่ะ
0 comments:
Post a Comment