Wednesday, June 6, 2012

เที่ยว Las Vegas ครั้งที่ 4 ตอน 1...วันแรกกับการเข้าพักที่โรงแรม Vdara และเดินเล่นที่โรงแรม Aria



29 ม.ค. 2555.....วันนี้เป็นวันแรกที่บินมาถึงลาสเวกัส เครื่องบินบินมาถึงตอนช่วงเช้าสายๆ คราวนี้ไม่บินมาลงช่วงดึกๆ เหมือนที่ผ่านมาเพราะอ่านมาว่าถ้าได้ check-in ที่โรงแรมช่วงระหว่างวัน มีสิทธิ์ที่จะได้ upgrade ห้องฟรี (ถ้าพนักงานใจดี และมีห้องเหลือเยอะ) มิน่าล่ะที่ผ่านมาเคยจองห้องแบบเตียง King ไว้ พนักงานกลับบอกว่า Sold out ทั้งๆ ที่จองแบบนี้ไว้ อย่างคราวที่แล้วยังได้วิวห้องพักแบบที่จองไว้ แต่เตียงนอนได้แบบเตียง Queen 2 เตียงแทน การจองห้องพัก โรงแรมจะไม่รับประกันว่าจะได้เตียงนอนแบบที่ต้องการเสมอไป แต่ได้วิวที่ต้องการแน่นอนเพราะได้จ่ายราคาสำหรับห้องพักที่มีวิวแบบนั้นไปแล้วเรียบร้อย ถ้าวิวสวยหน่อยอย่างวิวน้ำพุ ราคาก็จะสูงหน่อย

ครั้งนี้เลือกใช้บริการรถ Shuttle Bus รับส่งไปกลับสนามบิน-โรงแรม จะได้ไม่ต้องมารำคาญใจกับการนั่ง taxi เหมือนครั้งก่อนๆ ที่ส่วนใหญ่คนขับจะไม่ค่อยซื่อสัตย์เหมือนที่เคยได้เล่ามาแล้วใน blog เก่าๆ ที่เคยเขียนไว้ การใช้บริการของรถ Shuttle Bus ก็ให้ไปติดต่อที่ Counter ได้เลย เลือกบริษัทได้ตามใจชอบ แต่ Terminal ที่เครื่องบินของเราได้จอดลง มีอยู่แค่ Counter ด้านหน้าที่เดียวเท่านั้น ถ้าได้ลงอีกที่ Terminal หนึ่ง จะมี Counter จากหลายบริษัทอยู่ด้านนอกสนามบิน ตรงประตูทางเข้าออก

เคาร์เตอร์ที่เราไปจองครั้งนี้สะดวกมาก เพราะจองแบบไปกลับเหมือนที่เคยทำ แต่ครั้งนี้พนักงานบอกว่าขากลับไม่ต้องโทรมายืนยันล่วงหน้า 1 วันอีก พนักงานจะถามว่า ขากลับ Flight บินเวลาอะไร พนักงานก็จะแนะนำเวลาที่รถ Shuttle ควรจะไปรับที่โรงแรมให้ ต้องเผื่อเวลาไว้หน่อยนะคะ เพราะรถจะต้องไปรับลูกค้าที่โรงแรมอื่นๆ อีก

จากนั้นพนักงานก็จะให้ตั๋วมาทั้งไปและกลับ สะดวกมากที่ไม่ต้องโทรไปแจ้งยืนยันและนัดเวลาขากลับอีกต่อไป แต่ไม่แน่ใจว่าของบริษัทอื่นระบบได้เปลี่ยนมาเป็นอย่างนี้หรือเปล่านะคะ เวลาซื้อตั๋วก็ให้ฟังพนักงานที่ออกตั๋วให้ดีๆ แล้วกันค่ะว่า ถ้าซื้อแบบไป-กลับ ยังต้องโทรมาแจ้งก่อนวันกลับอีก 1 วันหรือไม่ ค่ารถไป-กลับสำหรับโรงแรม Vdara ประมาณคนละ US$ 13 ค่ะ ยังไม่รวมทิปนะคะ

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ที่ได้มาเยือนลาสเวกัส เลยเลือกพักโรงแรม Vdara เพราะเคยอ่านรีวิวและดูภาพมาว่าเป็นโรงแรมที่ตกแต่งทันสมัยและไม่มีคาสิโนจึงไม่มีกลิ่นควันบุหรี่ให้สูดดมเหมือนโรงแรมอื่นๆ ที่ตั้งของโรงแรมจะอยู่อีกด้านของถนนใจกลาง Strip แต่การเดินไปสู่ถนนใจกลาง Strip ไม่ยากเลยค่ะ เพราะโรงแรมตั้งอยู่ข้างๆ โรงแรม Aria ในเครือเดียวกัน สามารถเดินเข้าไปในโรงแรม Aria แล้วเข้า Crystal Shopping ใน City Center แล้วก็จะถึงถนนใจกลาง Strip ค่ะ

อีกทางเลือกหนึ่งก็คือให้เดินเข้าไปในทางเดินในโรงแรมที่เชื่อมต่อระหว่างโรงแรม Vdara และ Bellagio ค่ะ เดินไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงโรงแรม Bellagio แล้ว หรือจะเดินไปขึ้นรถ Tram ฟรีได้ค่ะที่วิ่งระหว่างโรงแรม Bellagio-City Center/Aria-Monte Carlo

ถ้าจะเดินออกไปยังถนนใจกลาง Strip ก็ให้เดินผ่านเข้าไปใน Bellagio ได้เลยค่ะ แล้วออกทางประตูด้านหน้าโรงแรม อ่านรีวิวบางคนบ่นว่า โรงแรม Vdara ที่ตั้งใจกลาง Strip แต่ไม่ดีและเดินไกล แต่สำหรับเราคิดว่าที่ทำเลของโรงแรมดีมาก สะดวกดี และถ้าใครไปลาสเวกัสก็ต้องเดินเยอะอยู่แล้ว โรงแรมหลายที่กว่าจะเดินถึงห้องพักก็ต้องเดินผ่านคาสิโน 10-15 นาที บางโรงแรมใหญ่มาก ขึ้นลิฟท์ไปแล้วก็ยังต้องเดินไปตามทางเดินอีกไกลเหมือนกันค่ะ แต่ที่ Vdara ไม่มีคาสิโน เลยเดินถึงห้องพักเร็วมากค่ะ

ตอนจองห้องพักที่ Vdara จองแบบห้องพักมาตรฐานแบบธรรมดา แต่ห้องที่นี่จะเป็นแบบ Deluxe หมดนะคะ ขนาดห้องจะใหญ่ทุกห้อง เราอยากได้ห้องที่อยู่ชั้นสูงๆ หน่อยและวิวสวยๆ แต่ไม่อยากจ่ายเงินเพิ่ม เลยคาดหวังว่าจะได้ upgrade ฟรี และหน้าที่นี้ยกให้เป็นของแฟนค่ะ เราไม่ได้ขอพนักงานแบบตรงๆ แต่แฟนพูดคุยเป็นมิตรกับพนักงานที่ check-in และบอกว่ามาพักที่โรงแรมนี้เป็นครั้งแรก และได้ติดตามข่าวสารของโรงแรมจากเฟสบุ๊คอีกด้วย พนักงานใจดีมาก upgrade ให้เรา 2 คนได้ห้องเห็นวิวบางส่วนของน้ำพุโรแรม Bellagio และได้ชั้นที่ 31 (ห้อง#31038) ค่ะ วิวสวยมากเลยและหน้าต่างเยอะมากค่ะ ชอบมากถูกใจสุดๆ ครั้งนี้โชคดีจัง

แต่ความโชคดีก็มากับโชคไม่ดีเหมือนกันค่ะ เพราะแฟนมีอาการเจ็บหลังก่อนบิน 1 วันเนื่องจากไปเอื้อมหยิบของในกระโปรงท้ายรถผิดท่า วันแรกเจ็บหลังมาก เลยไม่ได้เดินเที่ยวมากนักค่ะ เลยเดินสำรวจเฉพาะโรงแรม Vdara และ Aria ใกล้ๆ เท่านั้นค่ะ มาดูภาพห้องโรงแรมกันเลยนะคะ

ด้านหน้ามีห้องครัวเล็กๆ แต่ไม่มีจานชามให้นะคะ ต้องแจ้งก่อนล่วงหน้าพนักงานถึงจะจัดมาให้

มีโต๊ะเล็กๆ ให้นั่งทานอาหารได้ด้านหน้าทางเข้าห้องค่ะ

เตียงนอน นอนนุ่มสบายมากค่ะ อยู่ข้างหน้าต่างหลายบานใหญ่ วิวสวยมากค่ะ

ห้องนั่งเล่นค่ะ จะอยู่ตรงข้ามกับเตียงนอนโดยมีที่คั่นระหว่างกลางแบบในภาพค่ะ

ห้องน้ำตกแต่งทันสมัย

มีห้องแยกต่างหากสำหรับที่อาบน้ำแบบยืน และอ่างอาบน้ำก็ลึกดีค่ะ

ห้องน้ำจะอยู่ข้างเตียงนอนเลยค่ะ สะดวกดี

วิวบางส่วนจากห้องพักค่ะ จะเห็นวิวน้ำพุของโรงแรม Bellagio ค่ะ โชคดีมากค่ะที่ได้วิวนี้โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม

วิวอีกส่วนหนึ่งจากห้องพักค่ะ



ห้องนั่งเล่น

สำหรับห้องพักแบบที่มีที่คั่นกลางห้องแบบนี้ ปลายเตียงจะมีทีวีจอแบนอีกจอค่ะ

วิวจากห้องพักตอนที่น้ำพุกำลังเต้นระบำค่ะ

หน้าต่างในห้องพักมีหลายหน้าต่างและบานใหญ่มากค่ะ ทำให้เห็นวิวในมุมกว้างได้สวยมาก



ทางเดินหน้าห้องพักชั้น 31 ค่ะ

ไปเดินเล่นที่โรงแรมข้างๆ ชื่อ Aria ค่ะ เคยไปพักตอนไปเที่ยวครั้งที่ 2 ค่ะ ภาพนี้เป็นมังกรทำจากช็อกโกแลตอยู่ด้านข้างร้านสุดโปรด Jean Philippe Pâtisseries...3 ครั้งก่อนที่ได้ไปมาจะเป็นแบบดอกไม้ค่ะ

การตกแต่งภายในโรงแรม Aria ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน

ไปมุงดูเค้กหลากหลายสุดอร่อยจากร้านโปรด Jean Philippe Pâtisseries น่าทานทั้งนั้น

Jean Philippe Pâtisseries สาขาในโรงแรม Aria ค่ะ อีกร้านหนึ่งอยู่ในโรงแรม Bellagio ค่ะ

ยังไม่ได้ซื้อเค้กค่ะเพราะเดินไปที่เคาร์เตอร์หน้าร้านอาหาร Skybox ในโรงแรม Aria ก่อนค่ะ ซื้อกลับมาทานที่ห้องพัก ในภาพเป็น Skybox Burger ของแฟนค่ะ อร่อยมากค่ะ เคยอ่านรีวิวแล้วหลายคนบอกว่าอร่อยเลยต้องลองค่ะ

ของเราสั่ง Fish Tacos มาทานค่ะ อร่อยมาก

และนี่ก็คือเค้กชิ้นๆ เล็กๆ 2 ชิ้นที่ซื้อมาจากร้านสุดโปรดในดวงใจ Jean Philippe Pâtisseries ชิ้นละ US$6.90 แพงเหมือนกันแต่อร่อยมากสมราคาค่ะ ไปลาสเวกัสทีไรต้องไม่พลาดของหวานจากร้านนี้ทุกครั้งค่ะ ที่จริงอยากทานเค้ก Opera สุดโปรดก่อนแต่ดันหมดเร็วค่ะ เลยเลือก 2 ชิ้นนี้มาแทน อร่อยมาก บางทีเจอพนักงานชายสูงอายุชาวฝรั่งเศส เค้าเป็นมิตรมากค่ะ พอจ่ายเงินเสร็จ เค้าจะยิ้มแย้มและโบกมือบ๊าย บาย น่ารักมากค่ะ จำหน้าเค้าได้เพราะตอนไปครั้งที่ 2 เค้าเป็นคนทำเครปสุดอร่อยให้ค่ะ

ชอบถ่ายรูปอาหารของหวานอร่อยกับวิวสวยๆ ที่ห้องพักค่ะ

วิวสวยๆ จากห้องพักตอนใกล้ค่ำค่ะ สวยมาก









จบวันแรกแต่เพียงเท่านี้ค่ะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่สนใจอยากไปพักที่โรงแรม Vdara แห่งนี้นะคะ ครั้งหน้าจะมาเขียนต่อสำหรับวันที่ 2-3 และ วันที่ 4 ตอนไปเที่ยวที่ Grand Canyon South Rim นะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ



Tuesday, June 5, 2012

เที่ยว Las Vegas III...ตอน: สวนดอกไม้ของโรงแรม Bellagio

การไปเยือนลาสเวกัสแต่ละครั้งก็จะตื่นเต้นกับการได้ไปชมสวนดอกไม้ของโรงแรม Bellagio หรือที่เรียกกันว่า Botanical Gardens ค่ะ การตกแต่งสวนจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลและเทศกาลค่ะ อย่างของเดือนตุลาคมนี้จะอยู่ในช่วงหน้า Fall การตกแต่งก็จะออกมาแบบตามภาพข้างล่างค่ะ สวยงามมาก ค่าเข้าชมฟรีค่ะ ช่วงกลางวันนักท่องเที่ยวจะเข้ามาชมกันเยอะมากค่ะ


















ขอจบไว้แต่เพียงเท่านี้ค่ะ ครั้งหน้าจะลงภาพโรงแรม Vdara ให้ดูค่ะ ไปมาเป็นครั้งที่ 4 เมื่อต้นปีนี้เองค่ะ ขอบคุณค่ะ


เที่ยว Las Vegas III ตอน: รีวิวโรงแรม Planet Hollywood


2-7 ตุลาคม 2554.....ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่ได้ไปเยือนลาสเวกัส ดังนั้นจะขอรีวิวและเอาภาพโรงแรมที่ไปพักมาให้ดู ส่วนรายละเอียดทั่วๆ ไปอื่นๆ ให้กลับไปอ่านที่ Las Vegas I และ Las Vegas II ได้เลยค่ะ ให้กดเลือกตรง Label และ Old posts ก็จะเห็นหัวข้อเก่าๆ ที่เคยเขียนไว้ค่ะ ถ้านั่ง Taxi ไปโรงแรม ให้เตรียมเงินสดพร้อมทิปไว้ให้เรียบร้อยนะคะ เพราะถ้าจ่ายบัตรเครดิตจะโดนชาร์จเพิ่มค่ะ ส่วนตัวไม่ชอบคนขับ taxi ของที่นี่เท่าไหร่เพราะที่เจอมาชอบโกงและอ้างว่าไม่มีเงินสดย่อยสำหรับทอน

มีครั้งเดียวที่เจอคนขับ taxi ที่ดีและไม่เอาเปรียบก็ตอนขากลับเท่านั้นค่ะ ค่า taxi สำหรับมาที่โรงแรมนี้จากสนามบิน และ จากโรงแรมนี้กลับมาที่สนามบิน จะราคาประมาณ US$ 12-15 ไม่รวมทิปนะคะ แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าเพิ่มราคาแล้วหรือยัง แต่ถ้าคนขับ taxi ไม่ซื่อสัตย์ก็จะพาไปทางอ้อม ทำให้ต้องจ่ายแพงกว่าเยอะค่ะ ครั้งนี้ที่ต้องใช้บริการ taxi อีกเพราะเครื่องบินบินไปลง Terminal ตอนดึกที่ไม่มีรถ Shuttle Bus มารอรับผู้โดยสารทั่วไป และไม่สะดวกที่จะลากกระเป๋าเดินไปอีก Terminal เลยตัดสินใจใช้บริการ Taxi และบอกคนขับว่าอย่าขับไปทางอ้อมค่ะ

ครั้งนี้เลือกไปพักที่โรงแรม Planet Hollywood ค่ะ ทราบมาว่าโรงแรมนี้เคยบริหารโดยกลุ่มโรงแรมของเชอราตันแต่ขาดทุน จึงมีบริษัทใหม่มาบริหารแทนค่ะ ด้วยเหตุนี้เตียงนอนของที่นี่จะนุ่มและนอนสบายมากค่ะเหมือนกับเตียงนอนมาตรฐานของโรงแรมเชอราตัน

ที่เลือกไปพักที่นี่เพราะความชอบวิวน้ำพุและหอ Eiffel, Paris  เป็นส่วนตัว อยากได้ห้อง Premium Fountain View มากค่ะแต่ไม่อยากจ่ายแพงมากเกินไปเลยเลือกมาพักที่โรงแรมนี้ โชคดีที่ค้นหาจนเจอและพบว่าโรงแรมกำลังลดราคาห้องพัก 40% ค่ะ เลยไม่ต้องจ่ายแพงมากสำหรับวิวอันสุดยอดของที่นี่

ราคาของโรงแรมที่พักของ Planet Hollywood Las Vegas มีทั้งราคาต่ำไปจนถึงสูง แล้วแต่ว่าจะเลือกห้องพักแบบไหนค่ะ ห้องมาตรฐานโดยส่วนใหญ่จะมีหน้าต่างเล็กและค่อนข้างมืดในตอนกลางวัน เคยอ่านรีวิวจากหลายที่ คนส่วนใหญ่จะบ่นถึงเรื่องหน้าต่างและแสงสว่าง แต่พอไปพักจริงๆ ไม่ถึงกับแย่อย่างที่คิดค่ะ ห้องไม่ได้มืดมากนัก หน้าต่างก็ไม่ได้เล็กมากนักเพียงแต่มีอยู่ไม่กี่บานเท่านั้นค่ะ แต่วิวที่ดูจากห้องพักสวยสุดยอดมากค่ะ ถ้าอยากได้วิวนี้แน่นอน ตอนจองให้เลือกแบบ Premium Fountain View นะคะ จะเป็นห้องมาตรฐานโดยทั่วไป แต่จะเห็นทั้งวิวน้ำพุของโรงแรม Bellagio และ หอ Eiffel ของโรงแรม Paris ค่ะ

วิวจากห้องพักตอนกลางคืนค่ะ

เตียงนอน นอนนุ่มสบายมากค่ะ

ห้องกว้างใหญ่ใช้ได้ และห้องน้ำก็ใหญ่มากค่ะ











ห้องพักนี้จะตกแต่งด้วยของต่างๆ ที่เคยใช้ถ่ายทำในหนังเรื่อง Blue Chips ค่ะ



ทางเดินหน้าห้องค่ะ

หน้าลิฟท์

คราวนี้มาดูวิวตอนกลางวันจากห้องพักกันนะคะ สวยสุดยอดมากค่ะ



วิวนี้เป็นวิวของโรงแรม Cosmopolitan ค่ะ



มองลงมาด้านล่างจากห้องพักจะเห็นสระน้ำ ไม่ใหญ่มากค่ะ

จบการรีวิวของโรงแรมนี้แต่เพียงเท่านี้นะคะ โรงแรมนี้ลูกค้าที่มาพักส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่มีอายุไม่มากนักค่ะ เพราะสไตล์การตกแต่งของโรงแรมที่นี่จะออกเป็นแนว Hollywood Hip ค่ะ ราคาห้องจะไม่แพงมาก แต่ถ้าอยากได้ห้องวิวสวยๆ หรือห้องที่มีขนาดใหญ่และการตกแต่งสวยๆ ขึ้นมาอีกนิด ราคาก็จะสูงตามไปด้วยค่ะ ที่ทำเลอยู่ใจกลาง Strip เลย ดีมากค่ะ สำหรับที่ตั้งที่อยู่ในทำเลดี และราคาเริ่มต้นของห้องพักไม่แพงมากนัก